เป็นจังหวัดใกล้กรุงที่น่าเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ระยะทางก็อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่มากนัก สามารถขับรถไปเที่ยวโดยใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึง เมืองแปดริ้วมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายหลากหลาย ทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตที่น่าสนใจ วันเดียวเที่ยวเมืองแปดริ้วนอกจากการขับรถไปแล้ว ยังมีการเดินทางรูปแบบอื่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน รถไฟก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่แสนคลาสสิก หรือการท่องเที่ยวโดยทางเรือ ซึ่งนับเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แถมยังได้อรรถรสในการเที่ยวอีกด้วย
ตลาดคลองสวน 100 ปี ชิมอาหารอร่อยทั้งอาหารคาวที่มีสูตรเฉพาะ ขนมหวาน กาแฟสูตรโบราณดั้งเดิม ชมของเก่า และสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ตลาดจะมีคนเยอะเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
วัดโสธรวรารามวรวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคลต้องไปกราบพระขอพรจากพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว พระพุทธโสธรเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง ตามประวัติเล่าว่าเกิดปาฏิหาริย์ลอยน้ำมาและมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้
วันจีนประชาสโมสร หรือวัดเล่งฮกยี่ เป็นวัดจีนในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 มีวิหารประดิษฐานเทพเจ้าต่าง ๆ เช่น วิหารบูรพาจารย์ วิหารเจ้าแม่กวนอิม พระอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธรูปศิลปะมหายาน 3 องค์ พร้อมด้วยองค์ 18 อรหันต์ ทำจากกระดาษที่นำมาจากเมืองจีน
วัดอุภัยภาติการาม เดิมเป็นวัดจีนแต่ปัจจุบันแปรสภาพเป็นวัดญวนในลัทธิมหายาน สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 พระวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” ชาวจีนนิยมเรียกว่า “เจ้าพ่อซำปอกง” ที่มีอยู่เพียง 3 องค์ในประเทศไทย
ค้างคาวแม่ไก่วัดโพธิ์บางคล้า ค้างคาวแม่ไก่สายพันธุ์ใหญ่ที่สุดในโลก อาศัยอยู่ใต้ร่มไม้ภายในวัดโพธิ์บางคล้าจำนวนนับแสนตัว ลักษณะมีปีกสีดำ หน้าตาเหมือนสุนัขป่า คือมีจมูกและใบหูเล็ก ตาใหญ่ ขนสีน้ำตาลแกมแดง ในเวลากลางวันจะเกาะห้อยหัวลงตามกิ่งไม้อยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ ยามพลบค่ำก็ออกหากิน
ตลาดร้อยปีบ้านใหม่ ตลาดโบราณอันเลื่องชื่อมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จำหน่ายทั้งอาหารคาว-หวาน ก๋วยเตี๋ยว กาแฟโบราณ เครื่องดื่มโบราณ สมุนไพร ขนมไทย-จีน ของเล่น ของฝากต่าง ๆ ตลาดจะเปิดขายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์
จากรุงเทพฯ ไปฉะเชิงเทราได้หลายเส้นทาง เส้นทางแรกใช้ทางหลวงหมายเลข 304 (กรุงเทพฯ-มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา) ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร เส้นทางที่สอง ใช้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ สังเกตป้ายชี้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทราตามทางหลวงหมายเลข 314 หรือใช้ถนนสายอ่อนนุช-ฉะเชิงเทรา ผ่านสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ขับตรงไปจะผ่านตลาดคลองสวน 100 ปี อยู่ด้านซ้ายมือ หากขับตรงไปอีกจะเจอทางหลวงหมายเลข 314 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตัวจังหวัด ส่วนวัดโพธิ์บางคล้า จากตัวเมืองฉะเชิงเทราให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 มุ่งหน้าสู่อำเภอพนมสารคาม เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 17 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าอำเภอบางคล้า ถึงบริเวณทางแยกป้อมตำรวจอำเภอบางคล้า ให้เลี้ยวซ้ายและตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงวัดโพธิ์บางคล้า
ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานกรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0 2250 5500 ต่อ 2991-5
เมืองเล็ก ๆ แห่งการแสวงหาธรรมชาติที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด เรียกว่าเป็นปฐมบทแห่งการเริ่มต้นท่องเที่ยวก็ไม่ผิดนัก นครนายกมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ เพียบพร้อมไปด้วยธรรมชาติ ป่าไม้ ภูเขา น้ำตก สวนผลไม้ กิจกรรมผจญภัยอันหลากหลายที่นักท่องเที่ยวเมื่อไปเยือนแล้วต้องกลับมาด้วยความประทับใจ
เที่ยวเขตทหารโรงเรียนนายร้อย จปร. สักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 เข้าชมพิพิธภัณฑ์โรงเรียนนายร้อย จปร. 100 ปี เรียนรู้เรื่องราวของทหาร ประวัติศาสตร์เหตุการณ์ครั้งสำคัญ ร่วมกิจกรรมวัดใจคนกล้า เช่น โรยตัวจากผาจำลอง โหนเชือกข้ามลำน้ำ ฝึกยิงปืนอย่างถูกวิธี หัดพายเรือแคนู หรือขี่จักรยานท่องเที่ยว สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ทุกวันหยุดราชการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้ที่ โรงเรียนนายร้อย จปร. โทรศัพท์ 0 3739 3185, 0 3739 3010
เขื่อนขุนด่านปราการชล หรือที่เรียกกันติดปากว่า เขื่อนคลองท่าด่าน เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวที่สุดในโลก เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดกับประชาชน บริเวณเขื่อนมีกิจกรรมล่องแก่งเรือยางและเรือคายัก ช่วงที่เหมาะกับการล่องแก่ง คือ เดือนมิถุนายน-ตุลาคม ส่วนฤดูแล้งเขื่อนจะเปิดน้ำให้ล่องแก่งได้ วันเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวมาที่แก่งสามชั้นเป็นจำนวนมาก
ชมและชิมผลไม้ในสวน นครนายกนับว่าเป็นเมืองผลไม้ มีผลไม้หลายชนิด เช่น เงาะ ส้มโอ ทุเรียน มังคุด กระท้อน ลองกอง กล้วย ขนุน มะยงชิด สวนผลไม้หลายแห่งเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีที่พักและกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น ท่าด่านโฮมสเตย์ มีกิจกรรมต่าง ๆ ชิมผลไม้สด ๆ จากต้นตามฤดูกาล สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ สอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลข โทรศัพท์ 0 3738 5015, 08 3738 5015, 08 1804 4503, บ้านสวนสายสมร เปิดเป็นที่พักและมีกิจกรรมต่าง ๆ มีผลไม้หลายชนิด เช่น เงาะ ส้มโอ ทุเรียน มังคุด กระท้อน ลองกอง กล้วย ขนุน มะยงชิด เป็นต้น สอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08 7030 1824, 08 0566 1901, สวนละอองฟ้า มีสวนทุเรียนมากกว่า 100 สายพันธุ์ ที่เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ทุเรียนหายาก เหมาะสำหรับคนรักทุเรียนตัวจริง สามารถเข้าชมและชิมทุเรียนโบราณรสชาติดีได้ด้วย สอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 3821 6035-6
ศูนย์ไม้ดอกไม้ประดับ ตั้งอยู่ที่ถนนรังสติ-นครนายก คลอง 15 เป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับใหญ่ที่สุดในเมืองไทย และจัดส่งไปยังแหล่งจำหน่ายต่าง ๆ ทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อได้ในราคาขายส่ง
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 305 (รังสิต-นครนายก) เลียบคอลงรังสิต ผ่านอำเภอองครักษ์ อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครนายก ระยะทางประมาณ 105 กิโลเมตร ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานนครนายก โทรศัพท์ 0 3731 2282, 0 3731 2284
ใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษก็ถึงสุพรรณบุรี เป็นเส้นทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดที่ดีที่สุดเส้นทางหนึ่ง ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลเกินไป ทำให้มีเวลาท่องเที่ยวได้อย่างคุ้มค่า คุ้มเวลา สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งมีป้ายบอกชัดเจน แต่ละสถานที่อยู่ไม่ไกลกันมาก วันเดียวเที่ยวสุพรรณบุรี จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
วัดป่าเลไลยก์ เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่ามีอายุราว 1,200 ปี ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อโต ปางป่าเลไลยก์ เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 23.47 เมตร บริเวณด้านข้างวัดมีเรือนขุนช้าง เป็นเรือนไม้สักไทยโบราณ ตามวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ขึ้นไปบนเรือนจะเห็นภาพวาดตัวละครขุนช้าง ห้องต่าง ๆ จัดแสดงเครื่องใช้สมัยโบราณ
สวนเฉลิมภัทรราชินี หอคอยบรรหาร-แจ่มใส ตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางเมืองสุพรรณบุรี เป็นหอคอยแห่งแรกที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีความสูง 123.25 เมตร มีชั้นสำหรับชมวิวสูง 78.75 เมตร ด้านบนติดตั้งกล้องส่องทางไกลไว้รอบด้าน มีร้านขายของที่ระลึกและอาหารว่าง มีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองสุพรรณบุรี ส่วนบริเวณสวนเฉลิมภัทรราชินีประดับด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์ สวนปาล์ม สวนน้ำพุ ธารน้ำตก สไลเดอร์ สนามเด็กเล่น ช่วงค่ำมีน้ำพุประกอบดนตรี สีสันสวยงาม
สามชุก ตลาดร้อยปี ตลาดเก่าที่ยังมีชีวิต แม้เวลาจะผ่านไปแสนนาน ตัวตลาดเก่าที่สร้างด้วยไม้เรียงติดกันอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ทุกวันนี้ยังคงอยู่ เมื่อถึงวันเสาร์-อาทิตย์ผู้คนจะหลั่งไหลมาเที่ยวที่ตลาดสามชุกกันอย่างเนืองแน่น เสน่ห์ของการมาตลาดสามชุก คือ ได้เดินชมความคลาสสิกของบ้านไม้อายุนับร้อยปี รวมทั้งกินอาหารอร่อย ๆ ไปตลอดทาง อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงจีนารักษ์ นายภาษีอากรคนแรก ซึ่งเป็นเจ้าของตลาดสามชุก ที่บอกเล่าถึงความเป็นมาของชุมชนสามชุกในอดีตได้เป็นอย่างดี
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 340 (กรุงเทพฯ-บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) เส้นทางนี้สามารถไปได้ถึงตลาดสามชุก ซึ่งอยู่เลยตัวเมืองสุพรรณบุรีไปประมาณ 40 กิโลเมตรเท่านั้น ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานสุพรรณบุรี โทรศัพท์ 0 3553 5789, 03553 6189, 0 3553 6030 หรือเว็บไซต์ http://www.tatsuphan.net/
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เกิดจากความคิดริเริ่มของ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ที่สร้างความตื่นตาให้แก่ผู้พบเห็นด้วยช้างสามเศียรขนาดมหึมา เฉพาะส่วนหัวช้างสามเศียรก็มีน้ำหนักรวมหลายร้อยตัน หุ้มด้วยทองแดงทั้งตัว ซึ่งเป็นประติมากรรมลอยตัวที่ใช้เทคนิคการเคาะโลหะด้วยมือเป็นแห่งแรกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ภายในจัดแสดงวัตถุของมีค่า พระพุทธรูป เทวรูปสมัยต่าง ๆ และเครื่องลายครามของจีน สมัยราชวงศ์หยวน ราชวงศ์ชิง ชามสังคโลกสมัยสุโขทัย เครื่องเคลือบเขียวสมัยอยุธยา พระพุทธรูปสำคัญประมาณค่ามีได้ ฯลฯ
เมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในจำลองวิถีชีวิตไทยในอดีต ศูนย์รวมปูชนียสถานที่สำคัญ ๆ ของแต่ละจังหวัด เช่น เขาพระวิหาร ปราสาทหินพนมรุ้ง วัดมหาธาตุสุโขทัย พระพุทธบาทสระบุรี พระธาตุเมืองนคร พระธาตุไชยา ฯลฯ โดยสร้างให้มีขนาดเล็กลง บางแห่งเท่าแบบจริงการท่องเที่ยว ภายในเมืองโบราณควรจอดรถไว้แล้วเช่าจักรยานขี่ชมจะสะดวกกว่า
สถานตากอากาศบางปู จากอดีตถึงปัจจุบันยังเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยม กับบรรยากาศยามเย็นรอชมพระอาทิตย์อัสดง และฝูงนกนางนวลที่บินอวดโฉมกางปีกสวยให้เราได้ชมอย่างใกล้ชิดบนสะพานสุขตา ในราวต้นเดือนพฤศจิกายนฝูงนกนางนวลจะบินหนีหนาวมาที่บางปูเป็นจำนวนมาก เมื่อได้คู่ผสมพันธุ์แล้วก็จะทยอยบินกลับไปวางไข่บนที่ราบสูงใกล้ ๆ ทะเลสาบในทิเบตและมองโกเลีย มันจะเริ่มบินย้ายถิ่นกลับในราวเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม มื้อค่ำถ้าหิวก็เดินเข้าไปภายในศาลาสุขใจ ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหารไว้บริการ
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) เป็นหลักจะสะดวกที่สุด โดยเริ่มจากพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณไปจนถึงสถานตากอากาศบางปู ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท. สำนักงานกรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0 2250 5500 ต่อ 2991-5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น